รีวิวรวม 10 อันดับ เหยือกกรองน้ำดื่ม ยี่ห้อไหนดีที่สุด มีประสิทธิภาพ น่าใช้งานที่สุดในปี 2023
ประโยคที่หลายคนคงได้ยินกันอยู่เป็นประจำตั้งแต่เด็ก ๆ คือ “ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน” หรือ “ควรดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน” โดยประโยคเหล่านี้เป็นการรณรงค์ที่ทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะการขาดน้ำและทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น (1) แต่ในขณะเดียวกันหลายคนอาจมองข้ามไปว่า คุณภาพของน้ำเองก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าหากคุณดื่มน้ำที่มีการเจือปนสารเคมีหรือสารแขวนลอย มันจะส่งผลเสียโดยตรงต่อร่างกายของเราโดยตรง (2)
ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกบ้านจะมีเครื่องกรองน้ำดื่ม, แท่งกรองน้ำ หรือ ตู้กดน้ำแบบมีเครื่องกรองในตัวในตัว ไว้ภายในบ้าน เนื่องจากถึงแม้ว่าน้ำประปาจะมีความสะอาดในระดับหนึ่ง แต่บางครั้งคลอรีน, กลิ่น และสีขาวขุ่นของน้ำก็ยังหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ดีเครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพก็ย่อมจะมาพร้อมกับราคาที่แพงแตะหลักพันถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว เรียกว่าเงินที่จ่ายไปแทบจะหมดตัวกันเลยก็ว่าได้
แต่ใช่ว่าจะไม่มีอุปกรณ์กรองน้ำตัวเลือกที่ราคาถูกลงมา เพราะ ‘เหยือกกรองน้ำ’ เป็นอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ โดยภายในเหยือกจะมีไส้กรอง ที่ทำหน้าที่ในการกรองและกำจัดสารปนเปื้อนภายในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดีไม่แพ้ไปกว่าเครื่องกรองน้ำบางตัว ทำให้คุณได้ดื่มน้ำที่มีความบริสุทธิ์ไร้สารเจือปน ทั้งนี้ยังสามารถนำเข้าตู้เย็นและเทลงแก้วเพื่อดื่มได้ง่าย ๆ ที่สำคัญราคาของมันก็ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย
เหยือกกรองน้ำ คืออะไร ?

เหยือกกรองน้ำจะมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับเหยือกน้ำทั่วไปที่เราใช้งานภายในบ้าน แต่มันจะแตกต่างตรงที่ด้านในของเหยือกจะมีไส้กรองหรือตัวกรอง ซึ่งทำหน้าที่ในการปรับคุณภาพของน้ำ ให้รสชาติและกลิ่นของมันมีความสะอาด เพียงแค่รอเวลาประมาณ 15 – 30 นาที เหยือกน้ำก็พร้อมให้คุณได้ดื่มน้ำสะอาดเพื่อสุขภาพที่ดีต่อร่างกายแล้วครับ นอกจากนี้มันยังสามารถนำเข้าตู้เย็น และล้างทำความสะอาดได้ในเครื่องล้างจานได้โดยที่ไม่ต้องออกแรงในการล้างมือแต่อย่างใด
เหยือกกรองน้ำมีหลักในการกรองอย่างไร ?
โดยส่วนใหญ่แล้วไส้กรองจะเป็นคาร์บอน ซึ่งทำหน้าที่ในการเร่งปฎิกิริยาดูดซับและบล็อกสิ่งสกปรกภายในน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ตะกั่ว, ทราย, คลอรีน, โลหะหนัก และอื่น ๆ ก็จะโดนขจัดออกไปทั้งหมด ทำให้คุณได้รับน้ำดื่มที่สะอาดไร้สารปนเปื้อน แต่อย่างไรก็ดีตัวกรองก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนอย่างน้อยทุก 1 – 2 ครั้ง / เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าประสิทธิภาพของตัวกรองสามารถกรองน้ำให้สะอาดได้ตลอดเวลา
เหยือกกรองน้ำสามารถขจัดสารปนเปื้อนอะไรได้บ้าง ?
- ฟลูออไรด์
- ไมโครพลาสติก
- สารกำจัดวัชพืช
- สาร PFOS หรือ PFOA
- สารโลหะต่าง ๆ
- ธาตุกัมมันตรังสี
- สารกำจัดศัตรูพืช
- แบคทีเรียและจุลินทรีย์
- คลอรีน
อย่างไรก็ดีไส้กรองของแต่ละแบรนด์ก็จะมีประสิทธิภาพในการขจัดสารปนเปื้อนที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแนะนำว่าให้ทุกคนอ่านรายละเอียดของสินค้าให้ดีก่อนการซื้อครับ
ประโยชน์ที่ได้จากการใช้เหยือกกรองน้ำ
1. กำจัดสารปนเปื้อนภายในน้ำ
ตัวกรองภายในเหยือกจะมีคุณสมบัติที่คอยกรองสิ่งสกปรกหรือสารปนเปื้อนภายในน้ำ เนื่องจากในบางครั้งน้ำที่ออกมาจากก็อกหรือเครื่องกรองน้ำก็อาจจะมีสารปนเปื้อนได้ เพราะหากไม่ได้ทำความสะอาดมันจะกลายเป็นแหล่งก่อเชื้อโรคเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อทำให้มั่นใจว่าน้ำที่ดื่มเข้าไปมีความสะอาด การใช้เหยือกกรองน้ำจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก

2. ปรับกลิ่นและสีของน้ำ
ในบางครั้งน้ำที่เราดื่มอาจจะมีกลิ่นของคลอรีนหรือมีสีที่ขุ่นบ้างในบางครั้ง เพราะคลอรีนจะคอยทำหน้าที่ฆ่าเชื้อภายในน้ำ แต่ข้อเสียของคือมันจะทำให้น้ำมีความขาวขุ่นและกลิ่นที่ค่อนข้างแรง อย่างไรก็ดีเหยือกกรองน้ำจะช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ดีเลยครับ ทำให้น้ำดื่มของคุณมีความใสและไร้กลิ่น ดื่มได้ง่ายมากกว่าเดิม
3. ใช้งานได้ง่าย
การใช้งานเหยือกกรองน้ำนั้นง่ายมาก คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการติดตั้งเป็นเวลานาน (ใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการใส่ไส้กรอง) จากนั้นก็เพียงแค่เตรียมน้ำเปล่าที่คุณต้องการดื่ม เทลงไปในเหยือกกรองบริเวณส่วนกลางที่เป็นฟิลเตอร์ซึ่งทำหน้าที่ในการกรอง หลังจากนั้นรอเวลาเพียงไม่นาน คุณก็สามารถเทน้ำในเหยือกลงแก้วแล้วดื่มได้ทันที
4. มีขนาดกระทัดรัดและพกพาได้สะดวก
เหยือกกรองน้ำส่วนใหญ่จะผลิตออกมาในขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้คุณสามารถนำเข้าตู้เย็นได้ทุกขนาด อีกทั้งคุณยังสามารถที่จะพกพาติดตัวไปได้ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น การไปปิคนิคหรือจะนำไปในสนามกีฬา เพื่อที่จะได้ดื่มน้ำสะอาดให้สดชื่นหลังจากเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมาหนัก ๆ
5. ราคาไม่แพง
เมื่อพูดถึงการกรองน้ำแล้วแน่นอนหลายคนคงจะต้องนึกว่ามันจะต้องมีราคาที่แพงใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้วราคาของมันอยู่ในช่วงหลักร้อยหรือหนึ่งพันต้น ๆ เท่านั้น หากเปรียบเทียบกับคุณภาพที่คุณจะได้ดื่มน้ำสะอาดเข้าร่างกาย ทำให้ได้สุขภาพที่ดี บอกได้เลยว่ามันคุ้มค่าแก่การลงทุนจริง ๆ ครับ
รีวิว Filtex เหยือกกรองน้ำดื่ม รุ่น FT-501
รูปภาพจาก filtexwater.com
ราคา 690 บาท*
เหยือกกรองน้ำดื่มของ Filtex รุ่น FT-501 ถือเป็นสินค้าอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ เพราะไส้กรองของเหยือกสามารถที่จะกรองน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไส้กรองทำมาจากเส้นใยทักถอพิเศษหรือที่เรียกว่า Activated Carbon ที่สามารถจะกำจัดไตรฮาโลมีเทนและคลอรีน ทำให้น้ำที่ใส่ลงไปภายในเหยือกมีรสชาติ, สี และกลิ่นที่สะอาดและบริสุทธิ์ นอกจากนี้มันจะมีหน้าจอดิจตอลที่กดสั่งการให้เหยือกทำการกรองได้แบบอัตโนมัติ และยังมีระบบที่คอยเตือนให้เปลี่ยนไส้กรองอีกด้วย
ความจุ | 1 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ประสิทธิภาพ | กำจัดไตรฮาโลมีเทน, คลอรีน และอื่น ๆ |
BPA Free |
รีวิว SAFE เหยือกกรองน้ำอัลคาไลน์ รุ่น Ecomize
รูปภาพจาก safe1210.com
ราคา 990 บาท*
Safe รุ่น Ecomize มีไส้กรองที่เป็นแบบอัลคาไลน์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปรับน้ำให้มีความด่างอ่อนและขจัดโลหะหนัก รวมไปถึงสารเคมีและแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ภายในน้ำได้ทั้งหมด ทั้งนี้ตัวเหยือกก็จะเป็นวัสดุแบบ Food Grade ที่ไร้กังวลในเรื่องของสารเคมี ในขณะเดียวกันการทำความสะอาดเหยือกก็ง่าย สามารถที่จะนำไปล้างในเครื่องล้างจานได้
ความจุ | 2 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ประสิทธิภาพ | กรองคลอรีน, สารเคมี และแบคทีเรีย |
BPA Free |
รีวิว Philips AWP2937WHT เหยือกกรองน้ำ Micro X- Clean Plus หน้าจอดิจิตอล
รูปภาพจาก philips.co.th
ราคา 1,090 บาท*
Philips รุ่น AWP2937WHT มาพร้อมกับการกรองแบบ Micro X-Clean Plus ที่มันจะช่วยลดกำจัดปูนขาวและคลอรีนภายในน้ำ ในขณะเดียวกันยังช่วยกำจัดสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างตะกั่วได้มากถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ทำให้คุณได้ดื่มน้ำที่สะอาดและมีความปลอดภัยสูง ส่วนวัสดุที่ใช้ผลิตตัวเหยือกอย่าง ABS ก็มีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
ความจุ | 3.4 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก ABS |
ประสิทธิภาพ | กรองปูนขาว, คลอรีน และสารที่เป็นอัตรายต่อร่างกาย |
BPA Free |
รีวิว เหยือกกรองน้ำ AQUAPHOR รุ่น Smile
รูปภาพจาก aquaphor-thailand.com
ราคา 1,099 บาท*
จุดเด่นของ AQUAPHOR รุ่น Smile คือมันจะมีเทคโนโลยีทั้งหมด 3 ตัว ไม่ว่าจะเป็น IAM ซึ่งเป็นเม็ดที่คอยดูดซับสิ่งสกปรกให้ดีขึ้น AQUALEN-3 มีหน้าที่ในการกรองน้ำดิบและตรวจจับสิ่งปนเปื้อนทั้งประจุลบและบวกภายในน้ำ ส่วน Aqualen ™ จะคอยดักจับและกำจัดสารที่เป็นอันตราย อย่างเช่น เหล็ก, ตะกั่ว, โลหะหนัก หรือปรอท โดยถ้าหากเปรียบเทียบกับไส้กรองทั่วไปแล้ว ไส้กรองของทาง AQUAPHOR จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า 33 เท่า อีกทั้งตัวเหยือกกรองยังผ่านมาตรฐานจากทั้ง NSF ประเทศอเมริกา, SGS ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ LGA ประเทศเยอรมัน
ความจุ | 2.4 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ประสิทธิภาพ | กรองคลอรีน, เหล็ก, ตะกั่ว, โลหะหนัก, ปรอท และอื่น ๆ |
BPA Free |
รีวิว ZeroWater เหยือกกรองน้ำดื่ม ขจัดสารแขวนลอย ได้มาตรฐาน NFS 42&53
รูปภาพจาก zerowaterthailand.com
ราคา 1,149 บาท*
ZeroWater เป็นเหยือกกรองน้ำที่ผ่านหน่วยงานอย่าง NFS มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณภาพของไส้กรองถือว่าหายห่วงเลยละครับ โดยประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งเจือปนภายในน้ำทำได้สูงในระดับ 99.6 เปอร์เซ็นต์ เพราะมันมีการกรองกว่า 5 ชั้น สามารถที่จะขจัดสารปนเปื้อนอินทรีย์, สารแขวนลอยและสารประกอบอนินทรีย์ได้อย่างหมดจด พร้อมกันนี้มันยังมีเครื่องวัดค่า TDS ที่เมื่อคุณนำไปจุ่มลงน้ำ ตัวเครื่องจะอ่านค่าความสะอาดได้ทันที ถ้าหากเครื่องขึ้นเลข “0” นั่นจะหมายความว่าน้ำของคุณมีความบริสุทธิ์และปลอดภัย ซึ่งเหยือกน้ำตัวนี้สามารถทำได้อย่างแน่นอนครับ ไม่ว่าคุณจะใส่น้ำดื่มหรือน้ำประปาลงไปในเหยือก มันก็พร้อมเปลี่ยนคุณภาพของน้ำให้คุณพร้อมดื่มได้ตลอดเวลา
ความจุ | 2.8 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ประสิทธิภาพ | กรองคลอรีน, เหล็ก, ตะกั่ว, โลหะหนัก, ปรอท และสารเคมีที่เป็นอัตรายอื่น ๆ |
BPA Free |
รีวิว เหยือกกรองน้ำ Soglen รุ่นสีขาว พร้อมไส้กรองในชุด
รูปภาพจาก shopee.co.th
ราคา 1,250 บาท*
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ผ่านมาตรฐานของทาง NSF มาแล้วคือ Soglen เนื่องจากประสิทธิภาพในการกรองของเหยือกถือว่าดีมาก ๆ ต้องบอกว่าดีไม่แพ้กับเครื่องกรองน้ำทั่วไปที่ติดตั้งอยู่ตามบ้านเลยละครับ โดยไส้กรองภายในตัวเหยือกสามารถกรองสิ่งที่ปนเปื้อนภายในน้ำได้หลายอย่าง เช่น ตะกั่ว, โลหะหนัก, คลอรีน, ทราย, โคลน และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ด้วยขนาดที่กระทัดรัดทำให้ตัวเหยือกสามารถใส่ในตู้เย็นหรือคุณจะพกติดตัวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ได้ครับ
ความจุ | 2.5 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ประสิทธิภาพ | กรองคลอรีน, เหล็ก, ตะกั่ว, โลหะหนัก, ปรอท และสารเคมีที่เป็นอัตรายอื่น ๆ |
BPA Free |
รีวิว Stiebel Eltron เหยือกกรองน้ำดื่ม รุ่น Flow Pitcher
รูปภาพจาก stiebeleltronasia.com
ราคา 1,350 บาท*
ระบบการกรองของทาง Stiebel Eltron จะเป็นแบบ 5 in 1 ดังนั้นน้ำภายในเหยือก จะผ่านการกรองมาแล้วถึง 5 ขั้นตอน อีกทั้งไส้กรองของมันที่เป็น UF ซึ่งจะเป็นคาร์บอน สามารถทำให้น้ำประปาไร้แบคทีเรียและสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้น้ำประปามีความบริสุทธิ์และสะอาด ดื่มได้โดยไม่ต้องกังวลสารอันตรายใด ๆ นอกจากนี้ตัวเหยือกยังเป็นแบบฟลิบที่เติมน้ำเข้าไปได้ง่ายไม่ยุ่งยาก
ความจุ | 1 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก ABS |
ประสิทธิภาพ | กรองคลอรีน, สารเคมี และแบคทีเรีย |
BPA Free |
รีวิว Mitsubishi Cleansui เหยือกกรองน้ำอัลคาไลน์ รุ่น CP013 Super High Grade
รูปภาพจาก cleansui.co.th
ราคา 2,489 บาท*
±MITSUBISHI CLEANSUI รุ่น CP013 มีการใช้พลาสติกเกรด A ที่เป็น BPA Free ปลอดภัยต่อการใส่น้ำดื่ม เพราะมันจะไม่มีสารเคมีใด ๆ อยู่ภายในพลาสติก ทั้งนี้ไส้กรองของเหยือกจะมีเทคโนโลยีคาร์บอนที่มีการเคลือบซิลเวอร์ รวมไปถึงเยื่อของไส้กรองก็จะเป็น fibre Membrane ซึ่งมีความสามารถในการกำจัดสารอันตรายกว่า 13 ชนิด ได้ภายในระยะเวลา 5 – 10 นาทีหลังจากใส่น้ำลงไปเหยือก ยิ่งถ้านำไปใส่ตู้เย็นคุณก็จะได้น้ำสะอาดและเย็นเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ร่างกาย
ความจุ | 1.8 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก ABS |
ประสิทธิภาพ | กำจัดสารอันตรายกว่า 13 ชนิด |
BPA Free |
รีวิว BRITA เหยือกกรองน้ำ รุ่น Aluna COOL
รูปภาพจาก brita.co.th
ราคา 2,490 บาท*
Brita รุ่น Aluna Cool จะมีฟังก์ชันที่คล้ายกับรุ่น Marella แต่ราคาจะถูกกว่า และขนาดความจุ 2.4 ลิตรจะเหมาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว ทั้งนี้การใช้งานของเหยือกก็ง่าย สามารถเติมน้ำใส่ตัวกรองได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ประสิทธิภาพในการกรองก็ดี เพราะมันจะช่วยในการกำจัดคลอรีน ทั้งยังปรับให้น้ำมีความบริสุทธิ์พร้อมดื่ม โดยน้ำที่กรองออกมาจะมีความใสสะอาดและไร้กลิ่นพึงประสงค์ คุ้มค่าแก่การลงทุนเพื่อที่จะได้สุขภาพที่ดีครับ
ความจุ | 2.4 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ประสิทธิภาพ | กรองคลอรีน ทำให้น้ำมีความใสและไร้กลิ่น |
BPA Free |
รีวิว BRITA เหยือกกรองน้ำ รุ่น Marella XL 3.5L
รูปภาพจาก brita.co.th
ราคา 2,690 บาท*
Brita รุ่น Marella XL จะมาในขนาด 3.5 ลิตร โดยความน่าสนใจของรุ่นนี้คือทางแบรนด์ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีอย่าง MAXTRA และ Microflow มาเพื่อช่วยให้การกรองน้ำดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้น้ำทุกหยดมีความสะอาด พร้อมให้คุณได้ทำอาหารและดื่มเพิ่มความสดชื่น อีกทั้งมันยังมีระบบที่เรียกว่า BRITA Memo ซึ่งเป็นระบบที่คอยช่วยเตือนคุณให้เปลี่ยนไส้กรองทุก 1 เดือน รวมไปตัวเหยือกก็ใช้งานง่ายและเติมน้ำได้ไม่ยาก เพียงแค่คุณเปิดฝาบนขนาดเล็กออก ก็สามารถเติมน้ำเข้าไปได้มือเดียว ไม่จำเป็นต้องแงะหรือเปิดฝาใหญ่ให้เสียเวลา ที่สำคัญคือขนาดของตัวเหยือกนั้นนำเข้าตู้เย็นได้สบาย ๆ เพราะทางแบรนด์ออกแบบให้มันมีขนาดที่พอดีกับประตูของตู้เย็น
ความจุ | 3.5 ลิตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ประสิทธิภาพ | กรองคลอรีน ทำให้น้ำมีความใส และไร้กลิ่น |
BPA Free |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีการเลือกเหยือกกรองน้ำ
1. ประสิทธิภาพในการขจัดสารปนเปื้อนในน้ำ
อย่างที่ได้บอกไปว่าไส้กรองน้ำที่ใช้ในเหยือกส่วนใหญ่จะเป็นชาโคลหรือคาร์บอน ซึ่งมีคุณสมบัติในการดักจับคลอรีน ทั้งนี้เมื่อคลอรีนถูกกำจัดออกไปแล้ว แน่นอนว่ารสชาติ, กลิ่น และสีของน้ำก็จะดีขึ้นไปด้วย โดยคุณสมบัติที่บอกในเบื้องต้นเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่จะต้องมีในทุกเหยือกกรองน้ำ
แต่อย่างไรก็ดีเหยือกกรองน้ำที่มีราคาแพงหรือมีประสิทธิภาพสูง จะสามารถขจัดหรือกำจัดสารปนเปื้อนอื่น ๆ ได้เหมือนกัน อย่างเช่น ตะกั่ว, โครเมียม หรือสารอินทรีย์ ซึ่งตรงนี้จะขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องไส้กรองประสิทธิภาพที่สูงขนาดนี้หรือไม่ เนื่องจากราคาของสินค้าก็จะสูงตามไปด้วย ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นคนที่ซีเรียสในเรื่องของสุขภาพ ผมก็แนะนำให้อ่านรายละเอียดในส่วนนี้ให้ดีครับ
2. ผ่านมาตรฐาน NSF/ANSI หรือเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า NSF/ANSI คือหน่วยงานที่จะคอยควบคุมและตรวจสอบมาตรฐานเครื่องกรองน้ำที่วางขายในท้องตลาด ดังนั้นถ้าเหยือกกรองน้ำผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานนี้ แน่นอนว่าประสิทธิภาพในเรื่องของการกรองของมันก็ถือว่าดีและมีคุณภาพ
นอกจากนี้ยังมีอีกอย่างที่จะต้องเช็กคือตัวเลข ไม่ว่าจะเป็น ‘NSF/ANSI 43’ หรือ ‘NSF/ANSI 53’ เพราะตัวเลขเหล่านี้จะบอกถึงคุณภาพไส้กรองได้ ดังนี้
- เลข 43 หมายความว่า ตัวกรองสามารถลดคลอรีนภายในน้ำและปรับกลิ่นของน้ำให้ดีขึ้น
- เลข 53 หมายความว่า ตัวกรองสามารถขจัดสารเคมี, โลหะหนัก และสารอินทรีย์ต่าง ๆ
อย่างไรก็ดีสินค้าบางตัวที่ไม่มีการรับรองด้วย NSF/ANSI ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลือกซื้อไม่ได้นะครับ เพราะถ้าหากสินค้าเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดหรือได้รับการยอมรับ นั่นก็หมายความว่าประสิทธิภาพของมันก็สามารถกรองน้ำได้อย่างมีมาตรฐานเช่นเดียวกัน
3. ความจุของเหยือก
การเลือกความจุของเหยือกจะต้องดูว่าภายในบ้านของเรามีสมาชิกกี่คน หากคุณอยู่เพียงคนเดียว เหยือกขนาด 2 ลิตรก็เป็นความจุที่เพียงพอต่อการดื่มน้ำต่อวันแล้วครับ แต่ถ้ามีสมาชิกมากกว่าหนึ่งคน ก็แนะนำให้เลือกความจุที่มากกว่านี้ เพื่อให้ทุกคนภายในบ้านได้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
4. วัสดุที่ใช้ผลิตเหยือกกรองน้ำ
วัสดุของเหยือกจะต้องเป็น BPA Free เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพลาสติกหรือวัสดุของเหยือกจะไม่มีสารเคมีที่จะเข้าไปปนเปื้อน เพราะถ้าหากเราดื่มสารเคมีไปนาน ๆ มันอาจกลายเป็นโรคร้ายได้ในอนาคต
วิธีการเปลี่ยนไส้กรองของเหยือกกรองน้ำ

- เปิดฝาของเหยือกกรองน้ำออกให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมที่จะเปลี่ยนไส้กรอง
- ถอดไส้กรองตัวเก่าออก โดยในบางแบรนด์อาจจะถอดด้วยการหมุน หรือในบางแบรนด์ก็สามารถดึงออกมาได้ทันที
- ให้นำเอาไส้กรองไปจุ่มน้ำไว้ในน้ำเย็นและทำการเขย่า หรืออาจจะตั้งทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อที่จะไร้ฟองอากาศด้านในออกไป
- ใส่ไส้กรองลงไปในเหยือกกรองน้ำให้เข้าที่
- เติมน้ำใส่ไส้กรองและให้เททิ้ง (ทำอย่างน้อยประมาณ 2 ครั้ง)
- ใส่น้ำดื่มลงไปตามปกติ เมื่อครบเวลาในการกรอง คุณก็สามารถนำน้ำสะอาดมาดื่มได้ทันที