รีวิว 10 อันดับ Baby Monitor กล้องดูลูกน้อย ยี่ห้อไหนดีและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ปี 2023

รีวิว 10 อันดับ Baby Monitor กล้องดูลูกน้อย ยี่ห้อไหนดีและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ปี  2023

รีวิว 10 อันดับ Baby Monitor กล้องดูลูกน้อย ยี่ห้อไหนดีและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ปี 2023

 

อุปกรณ์ที่คุณแม่คุณแม่เลือกใช้ในการดูแลลูกน้อยอาจมีหลายอย่างที่จำเป็นต้องซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า,เตียงนอน, อ่างอาบน้ำ หรือรวมไปถึงของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการลูกน้อย แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องมองหาไอเทมที่ช่วยให้คุณได้พักสมองและผ่อนคลายให้กับตัวเองด้วย โดยเฉพาะไอเทมที่ช่วยคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างเราในการเตือน หากลูกน้อยต้องการคุณ ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือ กล้องดูเด็ก” หรือ “  Baby Monitor นั่นเองค่ะ

กล้องดูเด็กบางประเภทมีฟังก์ชันที่สามมารถใช้เพื่อติดตามการหายใจหรือหัวใจของทารกที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพได้อีกด้วย แน่นอนค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่ได้อยากพึ่งหน้าจอภาพหรือวีดีโอจากกล้องดูเด็กเพียงอย่างเดียว เพราะคงไม่มีสิ่งใดที่จะมาทดแทนการเฝ้าดูลูกน้อยของคุณด้วยตนเอง แต่หากคุณพ่อคุณแม่ต้องมีกิจวัตรหรืองานบ้านที่ต้องทำทันทีทันใด และไม่สามารถอุ้มลูกน้อยหรือดูแลพวกเขาได้ในบางช่วงเวลา การปล่อยให้ลูกน้อยอยู่ในพื้นที่หรือเตียงนอนที่ปลอดภัย โดยมีกล้องดูเด็กติดไว้เพื่อความเป็นไปของลูกน้อย คงจะดีไม่น้อย ว่ามั้ยล่ะคะ?

กล้องดูเด็ก หรือ baby monitor

Baby Monitor กล้องดูลูกน้อย

สำหรับประสบการณ์ของแม่เอง ที่แยกลูกน้อยนอนอีกห้องหนึ่งตั้งแต่พวกเขายังเป็นทารกนั้น คงปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่า กล้องดูเด็กเป็นไอเทมที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับแม่ที่จะคอยเฝ้าดูพฤติกรรมและตรวจสอบว่าพวกเขานอนหลับอย่างปลอดภัยหรือไม่? มาถึงตรงนี้ คงมีพ่อแม่หลาย ๆ คนคงอดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วทำไมแม่ถึงต้องแยกลูกนอน ไม่ห่วงพวกเขาหรอ? เป็นห่วงมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ถึงจำเป็นต้องติดกล้องดูเด็กไว้ในห้องของพวกเขาเพื่อจะเป็นการเตือนและเฝ้าดูพวกเขาได้ตลอดเวลา เพราะสุดท้ายแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องมีการฝึกการนอนหลับให้กับลูกน้อย เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะหลับได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน และโดยพื้นฐานแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะทำให้ลูกน้อยได้ตระหนักว่าพวกเขาสามารถทำให้ตัวเองนอนหลับได้เอง หรือปลอบประโลมให้ตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งถือเป็นทักษะการพัฒนาที่พวกเขาจะต้องเรียนรู้อยู่แล้วค่ะ (1)

กล้องดูเด็ก หรือ baby monitor คืออะไร?

กล้องดูเด็ก หรือ baby monitor
กล้องดูเด็ก หรือ baby monitor

กล้องดูเด็ก จะถูกออกแบบมาเป็นจอภาพ ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เตือนและติดตามลูกน้อย ซึ่งจอภาพบนมอนิเตอร์นี้ สามารถช่วยให้คุณได้ฟังหรือจับตาดูทารกได้จากระยะไกล ตัวอย่างเช่น คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกใช้กล้องดูเด็กสำหรับดูแลลูกน้อยเมื่อคุณอยู่ชั้นล่างหรืออยู่ในห้องอื่นที่คุณอาจไม่ได้ยินเสียงพวกเขาชัดเจนนัก และใช่เลยค่ะ เบบี้มอนิเตอร์สามารถทำให้คุณได้ยินเสียงลูกร้องไห้ได้พร้อมกับภาพลูกน้อย ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อทารก เบบี้มอนิเตอร์ก็เหมือนอุปกรณ์ตัวช่วยที่ทำให้คุณได้รับรู้การเคลื่อนไหวต่อทารกได้เป็นอย่างดี

คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มฝึกการนอนหลับให้ลูกน้อยเมื่อใด? (1)

 

ข้อดีของการฝึกลูกน้อยนอนด้วยตนเอง
ควรเริ่มฝึกการนอนหลับให้ลูกน้อยเมื่อใด?

กุมารแพทย์แนะนำให้เริ่มฝึกการนอนหลับเมื่อลูกน้อยของคุณอายุประมาณสี่เดือน ในวัยนี้ โดยปกติแล้ว ทารกจะโตพอที่จะเรียนรู้ที่จะปลอบประโลมหรือกล่อมตัวเองให้นอนหลับได้ และอาจไม่ต้องการการให้อาหารหรือดื่มนมระหว่างคืนอีกต่อไป นอกจากนี้ ลูกน้อยในวัยประมาณสี่เดือน จะเริ่มมีวัฏจักรการนอนหลับที่พัฒนาได้เต็มที่ขึ้น รวมถึงในเรื่องของฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่นของลูกน้อยด้วย เด็กบางคนจึงสามารถเริ่มฝึกการนอนหลับได้เร็วขึ้น ในขณะที่บางคนอาจจะทำได้ดีในช่วงอายุประมาณหกเดือน หรือหากคุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่มั่นใจหรือแน่ใจว่าลูกน้อยพร้อมสำหรับการฝึกนอนเองหรือไม่? ก็สามารถปรึกษากุมารแพทย์ประจำตัวลูกน้อยก่อนก็ได้ค่ะ

การฝึกการนอนหลับของลูกน้อยใช้เวลานานเท่าไหร่? (1)

ระยะเวลาที่ใช้ในการฝึกให้ลูกน้อยนอนหลับเองได้สำเร็จนั้น จะขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ควรใช้เวลาประมาณสามถึงสี่คืน ซึ่งจากประสบการณ์ที่แม่ฝึกลูกทั้งสองคนนอนเองนั้น ก็อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยนะคะ สำหรับเจ้าคนโตอาจจะง่ายหน่อย แค่สองคืนก็รู้ผล แต่เจ้าตัวเล็กที่จะติดแม่เป็นพิเศษ ใช้เวลาถึงสี่วันเลยล่ะค่ะ

การฝึกการนอนหลับให้ลูกน้อยปลอดภัยหรือไม่? (1)

มีการวิจัยระยะยาวมากมายที่ศึกษาเกี่ยวกับการฝึกการนอนหลับของลูกน้อย และไม่มีหลักฐานไหนที่แสดงว่าการฝึกการนอนหลับนั้นจะสร้างความเสียหายต่อทารกทั้งทางร่างกายและจิตใจเลย เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การฝึกการนอนหลับให้กับลูกน้อยนั้นสามารถปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับของทารก และเพิ่มความสัมพันธ์ที่ปลอดภัยระหว่างทารกกับผู้ดูแลได้อีกด้วย ตราบใดที่ลูกน้อยของคุณมีอายุที่เหมาะสมและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยแล้วล่ะก็ การฝึกการนอนหลับที่ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะเลือกใช้วิธีใด ก็ถือว่าปลอดภัยและส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของทารกได้อย่างสมบูรณ์เลยล่ะค่ะ

Baby monitor มีกี่ประเภท?

กล้องดูเด็กในปัจจุบันมีหลายประเภทมากมายให้เลือกซื้อ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและจุดประสงค์ของครอบครัวนั้น ๆ ซึ่งจะแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้ค่ะ

1. จอภาพเสียง (Audio Monitor)

โดยพื้นฐานแล้ว เบบี้มอนิเตอร์ประเภทนี้จะมีการใช้งานเหมือนกับเครื่องรับส่งวิทยุ จอภาพนี้จะให้คุณได้ยินเสียงของลูกน้อยเมื่อคุณไม่ได้อยู่ในห้องกับพวกเขา

2. จอภาพวิดีโอ (Video Monitor)

เบบี้มอนิเตอร์ประเภทจอภาพวิดีโอ จะเป็นการส่งวิดีโอจากกล้องในห้องของลูกน้อย โดยที่คุณจะดูวิดีโอของพวกเขาผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แท็บเล็ต, มือถือ เป็นต้น ซึ่งบางครั้งจอภาพจะใช้ WiFi ที่บ้านของคุณเพื่อถ่ายทอดการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของลูกน้อยผ่านทางแอปบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ

3. แอพมอนิเตอร์ (App Monitor)

มีแอพต่าง ๆ มากมายที่จะให้คุณเปลี่ยนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณให้เป็นจอภาพได้ สิ่งเหล่านี้อาจจะได้ภาพหรือเสียงที่ไม่ค่อยละเอียดหรือมีคุณภาพสูงเมื่อเทียบกับอุปกรณ์เฝ้าดูเด็กประเภทอื่น ๆ

 

รีวิว เบบี้มอนิเตอร์ Wireless LCD Screen 1080P IP Camera Night Vision

เบบี้มอนิเตอร์ Wireless LCD Screen 1080P IP Camera Night Vision

รูปภาพจาก lazada.co.th

ราคา 1,399 บาท*

ถ้าหากว่าคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่ไม่ชอบไม่ถนัดในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือไม่ชอบการติดตั้งที่แสนจะยุ่งยากแล้วล่ะก็เบบี้มอนิเตอร์รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี เพราะการทำงานของรุ่นนี้จะใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย 2.4G ที่เพียงแค่เสียบปลั๊กแล้วเปิดเครื่อง หน้าจอก็แสดงภาพทันที ไม่เน้นการเชื่อมต่อที่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นตั้งค่าให้วุ่นวาย ในส่วนของหน้าจอนั้นคมชัดพอสมควรทั้งในช่วงตอนกลางวันและตอนกลางคืนค่ะ หากว่ามีการใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างที่เหมาะสมจะให้ภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของเสียงนี่ราคาเท่านี้ถือว่าทำได้โอเคเลย เพราะว่าคุณแม่หลายคนต้องก็ประทับใจในเรื่องนี้ เสียงแจ๋วดีเยี่ยมเลยค่ะ

การทำงานของเบบี้มอนิเตอร์ตัวนี้ก็จะใช้การทำงานของแบตเตอรี่ลิเทียมพอลิเมอร์ โดยสามารถใช้งานได้นานประมาณ 2 ชม.ซึ่งในส่วนนี้ก็ถือว่าค่อนข้างที่จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานภายในบ้านหรือการพกพาออกนอกสถานที่ เพราะในบางครั้งที่คุณแม่จะต้องเข้าห้องน้ำ ทำกับข้าว หรือช่วงที่ต้องแยกตัวออกมาจากลูกน้อยแล้วก็ยังแน่ใจว่าลูกน้อยปลอดภัย ฉะนั้นแล้วไม่ว่าคุณแม่จะอยู่ส่วนไหนของบ้านก็ได้ยินเสียงของเจ้าหนูตลอดเวลาแถมยังมาพร้อมกับภาพของเจ้าแก้มป่อง แค่นี้ก็ช่วยให้หายคิดถึงไปได้เยอะเลยทีเดียวเลยค่ะ

ข้อดี

  • เชื่อมต่อง่ายไม่ยุ่งยากและพร้อมใช้งานได้ทันที
  • ราคาไม่แพงมากเกินไป
  • มีสัญญาณไฟแจ้งเตือนสถานะแบตเตอรี่่
  • คุณภาพเสียงคมชัด

ข้อเสีย

  • ขนาดหน้าจอเล็ก
  • หากอยู่ในที่แสงน้อยมาก ๆ ภาพในตอนกลางคืนไม่ชัดมากหรือเบลอเล็กน้อย
  • การใช้งานค่อนข้างจำกัดและต้องชาร์จแบตอยู่บ่อย ๆ
เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน x
ระยะการส่งสัญญาณ 200 ม. ในพื้นที่เปิด และ 30 ม. ในพื้นที่ปิด
ขนาดหน้าจอ 2.4 นิ้ว
ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล
การทำงานของกล้อง ซูมได้
Night Vision ✓ (ในระยะ 5 ม.)
เสียง การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
ฟังก์ชันอื่นๆ ตรวจจับอุณหภูมิ / มีเพลงกล่อมเด็ก
ซื้อที่ Lazada
ซื้อที่ Shopee

รีวิว กล้องดูแลเด็กเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น LT935

กล้องดูแลเด็กเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น LT935

รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 1,550 บาท*

กล้องดูแลเด็กเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น LT935 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่คุณพ่อคุณแม่ต่างก็ลงความเห็นว่าเป็นรุ่นที่ใช้ง่ายมาก ๆ ติดตั้งง่ายไม่มีปัญหาและที่สำคัญคือไม่ยุ่งยาก ซึ่งก็แน่นอนค่ะในเรื่องนี้ก็เพราะว่ารุ่น LT935 นั้นใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ไม่จำเป็นพึ่งอินเทอร์เน็ต เพียงแค่เปิดเครื่องตัวกล้องก็จะทำงานทันที ภาพคมชัด ดีเลย์น้อย เสียงดังชัดเจนสามารถใช้งานในพื้นที่ปิดได้โดยที่ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ตัวกล้องนั้นแพนได้และสามารถซูมได้ ซึ่งในเซตนี้ที่แม่เลือกมากก็จะมีหน้าจอและกล้องที่ถูกจับคู่มาให้แล้ว 2 ตัวด้วยกันค่ะ ซึ่งนี่ก็สามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มองเห็นทุกลูกน้อยได้ชัดเจนจากทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นในตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ไม่มีปัญหา

การทำงานของรุ่นนี้มีการปรับในส่วนของแบตเตอรี่เล็กน้อย โดยเพิ่มระบบการช่วยประหยัดพลังงานเข้ามาทำให้เมื่อลูกนอนหลับ หน้าจอจะดับลงแต่ทันทีที่มีการเคลื่อนไหวรวมถึงเสียง หน้าจอก็จะแสดงผลทันที โดยในส่วนของเสียงร้องไห้นั้นสามารถที่จะเลือกความไวได้ทั้งหมด 3 ระดับด้วยกันค่ะ อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับกล้อง 2 ตัว แต่หากในอนาคตคุณพ่อคุณแม่คิดจะติดกล้องเพิ่มหรือมีแพลนจะมีเจ้าตัวน้อยเพิ่มอีกก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเบบี้มอนิเตอร์ตัวใหม่ค่ะ เพราะคุณสามารถสั่งซื้อแค่เฉพาะกล้องเสริมและติดตั้งเข้ากับหน้าจอเดิมได้เลย โดยที่คุณสามารถเชื่อมต่อเข้าด้วยกันได้มากถึง 4 เครื่องพร้อมกับมีระบบสลับกล้องอัตโนมัติที่สามารถมองให้ได้จากทุกกล้องภายในเครื่องเดียว สะดวกสุด ๆ และที่สำคัญคือช่วยประหยัดเงินคุณพ่อคุณแม่ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ไปได้เยอะเลยค่ะ

ข้อดี

  • มาพร้อมกับกล้อง 2 ตัวช่วยให้เห็นการเคลื่อนไหวได้รอบทิศทางมากขึ้น
  • สามารถติดตั้งกล้องได้เพิ่มสูงสุด 4 ตัว
  • ไม่ต้องตั้งค่า สามารถใช้งานได้ง่าย
  • เสียงดังชัดเจน ไม่แตก
  • มีระบบประหยัดพลังงานช่วยให้ใช้งานได้นานมากขึ้น
  • มีไฟแสดงสถานะของแบตและมีเสียงเตือนเมื่อแบตหมด

ข้อเสีย

  • ภาพมีการดีเลย์บ้างเล็กน้อย
  • มีบางช่วงอาจรับสัญญาณได้ไม่ดีมากทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของตัวบ้านหรือตัวอาคาร
เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน x
ระยะการส่งสัญญาณ ไม่ระบุ
ขนาดหน้าจอ 3.5 นิ้ว
ความละเอียด ไม่ระบุ
การทำงานของกล้อง แพนกล้องและซูมได้
Night Vision
เสียง การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
ฟังก์ชันอื่นๆ มีเพลงกล่อมเด็ก 4 เพลง / ตรวจจับอุณหภูมิ
ซื้อที่ Shopee

รีวิว Prince & Princess กล้องเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น Safe & Sound

Prince & Princess กล้องเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น Safe & Sound

รูปภาพจาก princeandprincessbaby.com

ราคา 1,590 บาท*

คราวนี้เราก็มาดูทางฝั่งของเบบี้มอนิเตอร์ที่เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในยุคสมัยใหม่ที่ใช้เพียงมือถือเครื่องเดียวก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหนูได้ ไม่ว่าจะทั้งในบ้านหรือนอกบ้าน ซึ่งเบบี้มอนิเตอร์จาก Prince & Princess รุ่น Safe & Sound ก็เป็นรุ่นที่เรียกได้ว่าตอบโจทย์และน่าจะตรงตามความต้องการของผู้ปกครองหลาย ๆ ท่าน เบบี้มอนิเตอร์รุ่นนี้ใช้การเชื่อมต่อผ่านทางแอพลิเคชั่นที่ไม่ว่ามือถือเครื่องไหนก็สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้แบบฟรี ๆ และที่สำคัญอีกอย่างคือสามารถดูพร้อมกันได้มากถึง 5 บัญชี

เบบี้มอนิเตอร์รุ่นนี้เองก็ยังมาพร้อมกับความสามารถในการตรวจจับการเคลื่อนไหวที่คุณแม่สามารถปรับความ sensitive ของตัวกล้องได้นั่นคือไม่ว่าลูกน้อยขยับตัวหลังจากตื่นนอนหรือเกิดความผิดปกติในห้องก็จะมีการแจ้งเตือนเข้าตัวแอปพลิเคชันทันที นอกจากการเคลื่อนไหวแล้วรุ่นนี้ก็ยังมีการตรวจจับเสียง หากว่าลูกน้องร้องไห้งอแงผิดปกติคุณแม่ก็ทราบได้เพื่อที่จะได้พุ่งมาโอ๋เจ้าหนูได้ทันเวลาด้วยค่ะ สำหรับในเรื่องของมุมกล้องนั้นแม่ประทับใจมากเพราะว่าสามารถหมุนปรับไปรอบ ๆ ได้รวมถึงยังปรับขึ้นลงได้ ความละเอียดของภาพสูงสุดระดับ Full HD และสำหรับในช่วงเวลากลางคืนที่มีแสงค่อนข้างน้อย ระบบแสงอินฟาเรดจะทำงานอัตโนมัติซึ่งก็สามารถมองเห็นได้ไกลในระยะ 10 ม.เลยทีเดียวค่ะ เรียกว่ารุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่น่าจับตามอง ครบทุกฟังก์ชันในเรื่องของความปลอดภัยและตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ได้ดี และที่สำคัญคือราคาถือว่าไม่ต่างจากแบบอื่นมากเกินไปด้วยนะคะ เห็นแบบนี้แล้วก็คงต้องลองซื้อมาพิสูจน์กันดูแล้วนะคะ

ข้อดี

  • สั่งงานผ่านทางแอปพลิเคชันจึงสะดวกและใช้งานได้ทุกที่เหมาะสำหรับผู้ปกครองยุคใหม่
  • รองรับทั้งระบบแอนดรอยด์และ IOS แถมยังฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอเก็บเป็นความทรงจำไว้ดูทีหลังได้
  • ความคมชัดระดับ Full HD มองหน้าลูกได้ชัดแจ๋ว
  • ตัวกล้องหมุนได้รอบทิศทางรวมถึงปรับขึ้น/ลงได้เพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น
  • เมื่อลูกโตก็สามารถเปลี่ยนมาใช้งานเป็นกล้องวงจรปิดได้
  • การติดตั้งง่ายและมีวิดีโอสอนการติดตั้งในกรณีที่ผู้ปกครองมือใหม่

ข้อเสีย

  • ต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลา
  • ความคมชัดของภาพไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเทอร์เน็ต
เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน
ระยะการส่งสัญญาณ
ขนาดหน้าจอ – (เชื่อมต่อด้วยมือถือ)
ความละเอียด Full HD 1080 P
การทำงานของกล้อง หมุนรอบได้ 355 องศา และหมุดขึ้นลงได้ 110 องศา
Night Vision ✓ (ในระยะ 10 ม.)
เสียง การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
ฟังก์ชันอื่นๆ ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว / ระบบตรวจจับเสียงร้องไห้ / บันทึกภาพและวิดีโอได้ / เชื่อมต่อด้วยกันได้ 5 account
ซื้อที่ Lazada
ซื้อที่ Shopee
ซื้อที่ Central

รีวิว Baby Monitor เบบี้มอนิเตอร์ รุ่น VB603 หน้าจอกว้าง 3.2 นิ้ว

Baby Monitor เบบี้มอนิเตอร์ รุ่น VB603 หน้าจอกว้าง 3.2 นิ้ว

รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 1,679 บาท*

สำหรับเบบี้มอนิเตอร์รุ่นต่อมาก็ถือว่าเป็นรุ่นที่อัพเกรดคุณสมบัติรวมถึงฟังก์ชันในการใช้งานต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นก่อนเล็กน้อย ซึ่งราคาก็เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน ความพิเศษที่แตกต่างจากเดินอย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนนั่นก็เรื่องของหน้าจอ สำหรับตัวนี้ก็มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ LCD ที่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็น 3.2 นิ้ว มาพร้อมกับโหมด Night Vision ที่ทำให้เราติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหนูในช่วงกลางคืนได้เป็นอย่างดี นอกจากเรื่องของหน้าจอแล้วในเรื่องของการส่งสัญญาณตัวนี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากขึ้นค่ะเพราะสามารถส่งได้ไกลถึง 100 ม. แม้ในบ้านหรือในห้องที่มีฝาผนังกั้นกลางก็ตาม

การติดตั้งก็เช่นเดิมเลยค่ะคือเน้นความง่ายและสะดวก ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าและที่สำคัญคือไม่ต้องใช้ไวไฟเพราะตัวรับและตัวกล้องเบบี้มอนิเตอร์จะถูกเชื่อมเข้าหากันแบบไร้สาย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็แค่ติดตั้งกล้องในตำแหน่งที่ต้องการแล้วเปิดเครื่องก็พร้อมทำงานได้ทันที การทำงานจะใช้การชาร์จแบตที่ติดตั้งมาในตัวซึ่งก็ถูกพัฒนาให้อึดและใช้งานได้นานขึ้น เพื่อคุณพ่อคุณแม่ก็ได้รู้สึกมั่นใจว่าลูก ๆ นั้นปลอดภัยตลอดเวลาด้วยภาพและเสียงที่ชัดเจน แถมยังพูดคุยหยอกล้อโต้ตอบได้แบบ 2 ทิศทาง และคืนไหนที่เจ้าหนูงอแงคุณก็แค่เปิดเพลงช่วยกล่อมทำให้เจ้าหนูหลับปุ๋ยได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

ข้อดี

  • ขนาดหน้าจอใหญ่จุใจกว่ารุ่นก่อน
  • หน้าจอมาพร้อมขาตั้งทำให้ดูได้สะดวกขึ้น
  • ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบาสามารถพกพาไปใช้งานที่ไหนก็สะดวก
  • ปุ่มคำสั่งเข้าใจง่าย
  • คุณสมบัติและประสิทธิภาพสมราคา

ข้อเสีย

  • ต้องมีการชาร์จแบตบ่อย ๆ และการใช้งานค่อนข้างจำกัด
  • คุณภาพความคมชัดปานกลางแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของแสงและช่วงเวลาในการใช้งาน
เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน x
ระยะการส่งสัญญาณ 300 ม. ในพื้นที่เปิด และ 100 ม. ในพื้นที่ปิด
ขนาดหน้าจอ 3.2 นิ้ว
ความละเอียด 320 × 240 พิกเซล
การทำงานของกล้อง ซูมได้ 2 เท่า
Night Vision ✓ (ในระยะ 5 ม.)
เสียง การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
ฟังก์ชันอื่นๆ ตรวจจับอุณหภูมิ / มีเพลงกล่อมเด็ก / รองรับกล้องได้ 4 ตัว
ซื้อที่ Shopee

รีวิว BBluv กล้องวิดีโอเบบี้มอนิเตอร์ไร้สาย

BBluv กล้องวิดีโอเบบี้มอนิเตอร์ไร้สาย

รูปภาพจาก bbluv.com

ราคา 6,990 บาท*

และสำหรับเบบี้มอนิเตอร์ตัวสุดท้ายนี้ก็มาจากแบรนด์ BBluv ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ค่ะที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐานในระดับสากล ตัวเครื่องมีความปลอดภัย ได้ประสิทธิภาพเยี่ยม และยังแข็งแรงทนทานสามารถใช้งานได้นานอีกด้วย ตัวกล้องเบบี้มอนิเตอร์จะมาพร้อมกับหน้าจอและกล้องรวมถึงชุดติดตั้งเข้ากับฝนังที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับตัวกล้องโดยเฉพาะเพื่อให้ได้ตำแหน่งและมุมกล้องที่ใช่ที่สุด และเพื่อให้ติดตั้งได้อย่างมั่นคงไม่มีหลุดขณะใช้งาน การทำงานของเบบี้มอนิเตอร์จะใช้เทคโนโลยีไร้สาย 2.4 Ghz ที่มีระยะการส่งสัญญาณได้ไกลถึง 300 ม. ด้วยการแสดงผลบนหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ซึ่งเป็นจอสีและอินฟราเรดไนท์วิชั่น

ตัวกล้องมาในมุมที่ค่อนข้างกว้างสามารถมองเห็นได้ครอบคลุม นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถแพรอบ ๆ ได้ 350 องศา ปรับตำแหน่งขึ้นลงได้และยังสามารถซูมได้ รวมถึงความสว่างและระดับความดังของเสียงในส่วนนี้ก็สามารถควบคุมได้เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งต้องบอกไว้เลยว่าสำหรับบ้านที่ต้องการจะติดตั้งเบบี้มอนิเตอร์ในมุมต่าง ๆ เพิ่มเติมหรือต้องการดูความเคลื่อนไหวของลูกอีกคนก็สามารถใช้งานตัวนี้ได้ เพราะคุณแค่ซื้อกล้องเสริมแล้วนำมาเชื่อมต่อเข้ากับหน้าจอเดิมก็เท่านั้นเอง ซึ่งการเชื่อมต่อในแบบนี้สามารถทำได้มากถึง 4 ตัว ทำให้คุณแม่สามารถที่จะมองเห็นลูกจากมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ในคราวเดียว เนื่องจากหน้าจอนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ช่องเลยค่ะ ซึ่งถ้าหากใครที่ต้องการเบบี้มอนิเตอร์ดี ๆ สักเครื่องที่กะจะใช้งานกันแบบยาว ๆ ก็เลือกลงทุนกับแบรนด์สินค้าเพื่อผู้ปกครองและเด็กอย่างแบรนด์ BBluv แบรนด์นี้ได้เลยค่ะ

ข้อดี

  • สัญญาณเตือนเมื่อแบตใกล้หมดทำให้แม่ทราบล่วงหน้า
  • สินค้ามีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ
  • ภาพและเสียงคมชัดได้คุณภาพทั้งในกลางวันและกลางคืน
  • สามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลากหลายตามต้องการ
  • ตัวเครื่องรองรับภาษาได้หลากหลายเหมาะสำหรับการใช้งานสำหรับผู้ปกครองที่เป็นชาวต่างชาติ

ข้อเสีย

  • ราคาแพง
  • ใช้แบตเตอรี่จึงค่อนข้างที่จะจำกัดในเรื่องของเวลาใช้งาน
เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน x
ระยะการส่งสัญญาณ 300 ม.
ขนาดหน้าจอ 4.3 นิ้ว
ความละเอียด ไม่ระบุ
การทำงานของกล้อง หมุนได้ 350 องศา ปรับขึ้นลงได้ และซูมได้
Night Vision
เสียง การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
ฟังก์ชันอื่นๆ เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ / ตั้งเวลาได้ / มีเพลงกล่อมเด็ก 5 เพลง
ซื้อที่ Shopee
ซื้อที่ Central

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

ตารางเปรียบเทียบ

รีวิว 10 อันดับ Baby Monitor กล้องดูลูกน้อย ยี่ห้อไหนดีและคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ปี 2023

ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า คุณสมบัติ ดูเพิ่มเติม
เบบี้มอนิเตอร์ Wireless LCD Screen 1080P IP Camera Night Vision

รูปภาพจาก lazada.co.th

เบบี้มอนิเตอร์ Wireless LCD Screen 1080P IP Camera Night Vision

  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน : x
  • ระยะการส่งสัญญาณ : 200 ม. ในพื้นที่เปิด และ 30 ม. ในพื้นที่ปิด
  • ขนาดหน้าจอ : 2.4 นิ้ว
  • ความละเอียด : 640 x 480 พิกเซล
  • การทำงานของกล้อง : ซูมได้
  • Night Vision : ✓ (ในระยะ 5 ม.)
  • เสียง : การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
  • ฟังก์ชันอื่นๆ: ตรวจจับอุณหภูมิ / มีเพลงกล่อมเด็ก
ดูที่ lazada
ดูที่ shopee
กล้องดูแลเด็กเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น LT935

รูปภาพจาก shopee.co.th

กล้องดูแลเด็กเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น LT935

  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน : x
  • ระยะการส่งสัญญาณ : ไม่ระบุ
  • ขนาดหน้าจอ: 3.5 นิ้ว
  • ความละเอียด : ไม่ระบุ
  • การทำงานของกล้อง : แพนกล้องและซูมได้
  • Night Vision:
  • เสียง: การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
  • ฟังก์ชันอื่นๆ : มีเพลงกล่อมเด็ก 4 เพลง / ตรวจจับอุณหภูมิ
ดูที่ shopee
Prince & Princess กล้องเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น Safe & Sound

รูปภาพจาก princeandprincessbaby.com

Prince & Princess กล้องเบบี้มอนิเตอร์ รุ่น Safe & Sound

  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน :
  • ระยะการส่งสัญญาณ:
  • ขนาดหน้าจอ: – (เชื่อมต่อด้วยมือถือ)
  • ความละเอียด : Full HD 1080 P
  • การทำงานของกล้อง: หมุนรอบได้ 355 องศา และหมุดขึ้นลงได้ 110 องศา
  • Night Vision : ✓ (ในระยะ 10 ม.)
  • เสียง: การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
  • ฟังก์ชันอื่นๆ : ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว / ระบบตรวจจับเสียงร้องไห้ / บันทึกภาพและวิดีโอได้ / เชื่อมต่อด้วยกันได้ 5 account
ดูที่ lazada
ดูที่ shopee
ดูที่ central
Baby Monitor เบบี้มอนิเตอร์ รุ่น VB603 หน้าจอกว้าง 3.2 นิ้ว

รูปภาพจาก shopee.co.th

Baby Monitor เบบี้มอนิเตอร์ รุ่น VB603 หน้าจอกว้าง 3.2 นิ้ว

  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน : x
  • ระยะการส่งสัญญาณ: 300 ม. ในพื้นที่เปิด และ 100 ม. ในพื้นที่ปิด
  • ขนาดหน้าจอ: 3.2 นิ้ว
  • ความละเอียด: 320 × 240 พิกเซล
  • การทำงานของกล้อง: ซูมได้ 2 เท่า
  • Night Vision: ✓ (ในระยะ 5 ม.)
  • เสียง : การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
  • ฟังก์ชันอื่นๆ: ตรวจจับอุณหภูมิ / มีเพลงกล่อมเด็ก / รองรับกล้องได้ 4 ตัว
ดูที่ shopee
BBluv กล้องวิดีโอเบบี้มอนิเตอร์ไร้สาย

รูปภาพจาก bbluv.com

BBluv กล้องวิดีโอเบบี้มอนิเตอร์ไร้สาย

  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน: x
  • ระยะการส่งสัญญาณ: 300 ม.
  • ขนาดหน้าจอ : 4.3 นิ้ว
  • ความละเอียด: ไม่ระบุ
  • การทำงานของกล้อง: หมุนได้ 350 องศา ปรับขึ้นลงได้ และซูมได้
  • Night Vision :
  • เสียง: การโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง
  • ฟังก์ชันอื่นๆ : เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ / ตั้งเวลาได้ / มีเพลงกล่อมเด็ก 5 เพลง
ดูที่ shopee
ดูที่ central

เบบี้มอนิเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณได้ติดการการเคลื่อนไหวของลูกน้อยได้ดีเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถเฝ้าดูแลพวกเขาได้ตลอดเวลา จากประสบการณ์แม่ที่แยกห้องนอนกับลูกน้อยตั้งแต่พวกเขาเพียงหนึ่งขวบนั้น การมีเบบี้มอนิเตอร์เป็นตัวช่วยในการเตือน การได้ยินเสียง แต่ความเคลื่อนไหวของลูกน้อย ก็ช่วยให้แม่รู้สึกผ่อนคลายและได้ทำงานบ้านหรือธุระประปรายในบ้านได้ในเวลาเดียวกัน เพียงเปลี่ยนจากการเฝ้าดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เป็นการดูผ่านเบบี้มอนิเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเวลางีบกลางวันของลูกน้อย หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเข้านอนตอนกลางคืนที่พวกเขานอนหลับยาวทั้งคืน คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลาผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ อีกทั้งการที่ผู้ปกครองอย่างเราแยกห้องนอนโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ห้องเดียวกับลูกน้อย ก็ช่วยให้พวกเขาได้นอนหลับได้อย่างเต็มที่ เพราะลูกน้อยเองก็คงไม่อยากถูกรบกวนด้วยเสียงเปิดประตูเข้าออกของคุณพ่อคุณแม่ การพูดคุยกัน หรือสิ่งรบกวนต่าง ๆ ขณะพวกเขานอนหลับ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมตรวจสอบการทำงาน อาทิเช่น ไฟฟ้า แบตเตอรี่ หรือ WiFi ขณะใช้งานเจ้าเบบี้มอนิเตอร์ด้วยนะคะ

คำแนะนำในการเลือกซื้อ Baby Monitor

  • เลือกประเภทของมอนิเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละบ้านเลยค่ะ อย่างลูกน้อยที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ เช่น การหายใจ หัวใจ เป็นต้น
  • มองหาเบบี้มอนิเตอร์ที่สามารถส่งสัญญาณเสียงเพื่อเป็นการเตือนให้กับคุณ ถึงแม้คุณจะอยู่ในระยะห่างไกล
  • ตรวจสอบกล้องที่มีมุมที่กว้างพอที่จะมองเห็นทารกได้
  • มีช่องสัญญาณต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนจากคลื่นวิทยุ
  • การเลือกกล้องดูเด็กที่สามารถใช้ในห้องต่าง ๆ ได้ เช่น แสงไฟ เพราะกลางคืนที่ต้องปิดไฟในห้องของลูกน้อย การเลือกกล้องที่สามารถแสดงผลได้ชัดเจนในห้องมืด ก็สามารถทำให้คุณได้เห็นลูกน้อยผ่านทางจอภาพได้แม้ไม่มีแสงสว่าง
  • ความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะเบบี้มอนิเตอร์มีทั้งแบบใช้ถ่านไฟฉายหรือชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเลือกซื้อที่เหมาะกับความสะดวกสบายในการใช้งานได้เลยค่ะ
  • การติดตั้งที่ง่าย เบบี้มอนิเตอร์บางรุ่น ถูกออกแบบมาเพื่อการติดตั้งที่ง่ายและไร้สายไฟ เพื่อป้องกันอันตรายจากการที่ตัวสายอาจเข้าไปเกี่ยวหรือรัดในส่วนใดส่วนหนึ่งของเจ้าตัวน้อยได้ค่ะ
  • ความแข็งแรงคงทน เพราะอย่างที่บอกค่ะ แม่แยกห้องนอนกับลูกต้องแต่พวกเขายังเด็ก การเลือกเบบี้มอนิเตอร์ที่ทนทาน ก็จะทำให้สามารถใช้งานไปได้หลายปีเลยทีเดียว
  • ฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ หากต้องการ เช่น การปรับลดเพิ่มเสียง ปรับแสงสว่าง โหมดกลางวันกลางคืน เป็นต้น
  • วัสดุของเบบี้มอนิเตอร์ไม่เพียงแต่ต้องทนทาน แต่ต้องทำจากวัสดุที่ปลอดภัยจากสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้

ข้อดีของการฝึกลูกน้อยนอนด้วยตนเอง (1,2)

  • ลูกน้อยจะนอนหลับได้นานขึ้นและเต็มที่มากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกน้อยได้นอนบนเตียงนอนของพวกเขาเองอย่างสม่ำเสมอ โดยเปิดเครื่องช่วยกล่อมลูกน้อยสักหน่อย พวกเขาจะเรียนรู้ที่จะนอนหลับอย่างเต็มอื่มและนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเจ้าตัวน้อยจะมีคุณภาพในการนอนที่มากขึ้น และมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย
  • หากทารกสามารถกลับไปได้ด้วยตัวเองเมื่อพวกเขาตื่นขึ้น การฝึกให้ลูกน้อยได้นอนเองบนเตียงของพวกเขา จะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะนอนหลับด้วยตนเองมากขึ้น หากพวกเขาตื่นขึ้นมาร้องไห้งอแงหรือขอนมมื้อดึก หรือแม้แต่การพลิกตัวนอนในท่าอื่น ก็สามารถปลุกพวกเขาให้ตื่นได้ แต่หากคุณพ่อคุณแม่รอพวกเขาให้สามารถกลับไปนอนหลับได้ด้วยตนเองแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของวงจรการนอนหลับได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปนอนต่อได้เองค่ะ
ข้อดีของการฝึกลูกน้อยนอนด้วยตนเอง
ข้อดีของการฝึกลูกน้อยนอนด้วยตนเอง
  • คุณพ่อคุณแม่มีเวลานอนหลับมากขึ้น ข้อนี้เนี่ย จริงแสนจริงเลยล่ะค่ะ เพราะแม่เองได้รับการนอนหลับที่มากขึ้นหลังจากแยกลูกน้อยให้นอนเอง เพราะแม่ไม่ต้องถูกปลุกด้วยเสียงคำรามหรืองอแงของทารก เชื่อมั้ยคะว่าลูกน้อยจะไม่เกิดการพัฒนานิสัยในเรื่องของการกลับไปนอนเองทุกครั้งที่ตื่น หากคุณเข้าไปในห้องของพวกเขาทุกครั้งที่พวกเขาตื่น
  • ลูกน้อยสามารถรับรู้กลิ่นของคุณได้ภายในไม่กี่วันแรกเกิด ถ้าลูกน้อยถูกเลี้ยงดูหรือนอนในห้องกับคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะก็ พวกเขาอาจจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหากไม่ได้รับรู้กลิ่นของคุณอยู่ข้าง ๆ
  • การให้ลูกน้อยได้นอนบนเตียงของตัวเองอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เป็นทารกน้อย จะช่วยให้พวกเขาได้พัฒนานิสัยการงีบหลับที่ดี
  • ช่วยเพิ่มความง่ายขึ้นให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนดูแลคนอื่น ๆ ของลูกน้อย หากพวกเขารู้วิธีเข้านอนบนเตียงได้ด้วยตนเอง
  • คุณพ่อคุณแม่จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น เพราะต่อให้มีลูกน้อยมาเป็นโซ่คล้องใจ แต่อย่าลืมว่าคุณก็ต้องมีเวลาให้กันและกัน เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของคู่แต่งงาน
  • ลดความเสี่ยงของการเกิด SIDS หรือโรคไหลตายในเด็กเล็ก หรือ การที่คุณพ่อคุณแม่เองอาจทำให้ลูกน้อยเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเมื่อนอนด้วยกัน และไม่ทันระมัดระวังเมื่อนอนหลับลึก และเกิดไปทับลูกน้อยได้

เห็นมั้ยล่ะค่ะว่า การให้ลูกน้อยได้นอนหลับบนเตียงของตนเองให้ประโยชน์มากมายกับตัวลูกน้อยและตัวคุณพ่อคุณแม่เอง แต่คุณพ่อคุณแม่ที่ยังคงกังวลกับการปล่อยลูกให้นอนด้วยตนเอง หรือบางครอบครัวที่แยกห้องกับลูกน้อยตั้งแต่ยังเป็นททารก ก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ค่ะว่า เราจะไม่มีความวิตกจริตกับการที่ไม่ได้เห็นลูกน้อยในขณะที่พวกเขานอนหลับ โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่ลูกน้อยบางคน อาจจะนอนหลับได้ตลอดคืนโดยไม่งอแง หรือตื่นมาขอนมมื้อดึก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมแม่ หรือ คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ครอบครัวจึงอยากมีกล้องดูเด็ก หรือ baby monitor มาช่วยแก้ความวิตกกังวลและเป็นการสอดส่องความปลอดภัยในการนอนหลับของลูกน้อยกันค่ะ

 

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

Thai Top 10 Best
Logo